เหยื่อ คิมการัม (Kim Garam) เปิดหลักฐานถูกกลั่นแกล้ง ลั่น เคยเกือบคิดฆ่าตัวตาย โต้ HYBE ค่ายต้นสังกัด le serafim ไม่ยอมรับความจริง ทีมกฎหมายชี้มีหลักฐานพร้อมเปิดเผยหากยังไม่ยอมรับ ยังคงเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อล่าสุด เหยื่อที่อ้างว่าถูก คิมการัม สมาชิกวงไอดอลหน้าใหม่ le serafim ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวประเด็นการบูลลี่ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผ่านทางที่ปรึกษาด้านกฎหมายของเธอ โดยผู้ที่อ้างว่าเป็นเหยื่อ ได้บอกว่า การที่เธอเคยถูกบูลลี่จากคิมการัมคือเรื่องจริง พร้อมกับที่ทีมกฎหมายส่วนตัวได้เปิดผลการสืบสวนอีกส่วนระบุว่า คิมการัมเคยกลั่นแกล้งเหยื่อจริง ๆ พร้อมเนื้อความว่า “เหยื่อตกเป็นเป้าหมายในการใช้ความรุนแรงของกลุ่มคิมการัมตั้งแต่ปลายเมษา จนถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2018 ทำให้ผู้เสียหายต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอื่น
กระทั่งในช่วงวันที่ 4 มิถุนายน 2018
ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการมาตรการรับมือความรุนแรงในโรงเรียนขึ้น ทำให้ คิม การัม นักเรียนที่ก่อความรุนแรงในโรงเรียน ถูกลงโทษด้วยการศึกษาพิเศษเป็นเวลา 6 ชั่วโมง ตามมาตรา 17-1-5 ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามความรุนแรงในโรงเรียน ส่วนพ่อแม่ของเธอก็ถูกอบรมพิเศษเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเวลา 5 ชั่วโมง ในขณะที่เหยื่อต้องได้รับการปรึกษาและคำแนะนำทางจิตวิทยาตามมาตรา 16-1-1 หลังจากเหตุการณ์ในคราวนั้น
เหยื่อที่ถูกกลั่นแกล้ง ได้ตัดสินใจย้ายออกไปจากโรงเรียนด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมบูลลี่ของอีกฝ่ายได้ แต่นั่นกลับทำให้เธอต้องทุกข์ทรมานจากข่าวลือที่กล่าวว่า เพราะเธอเป็นฝ่ายที่ผิดต่างหาก เธอเลยจำเป็นจะต้องย้ายออกไป”
ทว่าการถูกคุกคามทางโลกออนไลน์ที่มีต่อเหยื่อยิ่งรุนแรงขึ้น เมื่อค่ายต้นสังกัดของการัมอย่าง HYBE ได้ออกมาโต้ตอบว่า การัม คือผู้ที่เป็นเหยื่อ ไม่ใช่ผู้ที่กระทำความผิด รวมไปถึงชาวเน็ตหลายส่วน ได้มองว่าผู้ที่อ้างตัวเป็นเหยื่อ อาจกระทำไปด้วยความรู้สึกอิจฉา หนักขึ้นขนาดที่มีการพยายามอัปโหลดรูปใบหน้าของเหยื่อ พร้อมข้อความว่า “เตรียมขุดหลุมฝังตัวเองได้เลย” ซึ่งทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายของเหยื่อ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวในครั้งนี้ว่า
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีคนมาตั้งโพสต์ถึงคิมการัมเพิ่มเติม โดยพูดถึงชื่อเสียงของการัมที่รู้จักกันไปทั่วว่าเธอไม่ใช่คนที่ทัศนคติดีเลย ทั้งยังเปิดเผยว่า เมื่อมีนักเรียนคนไหนที่เธอไม่ชอบ การัมจะมองหาเพื่อนมาร่วมด่านักเรียนคนนั้นด้วยกัน โดยคนที่ตั้งกระทู้โพสต์ในครั้งนี้ ก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของการัม ซึ่งนับได้ว่า นี่เป็นหนึ่งในเคสที่พยายามจะเปิดโปงพฤติกรรมที่รุนแรงของไอดอลสาวในอดีต
อาจจะเพราะว่าสถานะของเหยื่อในตอนนี้ เปรียบเหมือนอยู่ในน้ำมือของการัม ทำให้ใครหลายคนมองว่า เหยื่อได้ทำการใส่ร้ายการัมเพราะความอิจฉา จนทำให้เกิดข้อความเกลียดชังมากมายต่อเหยื่อในอินเทอร์เน็ต เช่น ‘ทุกอย่าง [บนใบหน้าของเธอ] ถูกทำใหม่ แต่เธอก็ยังน่าเกลียด’ ‘เธอใส่ร้ายเพราะเธอริษยา’ โดยบางคนถึงขนาดพยายามเปิดเผยภาพลักษณ์ของเหยื่อพร้อมข้อความอย่าง ‘คุณควรเตรียมหลุมศพให้พร้อม’
นั่นเป็นเหตุให้เหยื่อเกิดความกังวล และรู้สึกกลัว เพราะระแวงว่าอาจมีใครที่มีรูปถ่ายฉบับจริง และอาจทำการบังคับขู่เข็ญ หรือแบล็คเมล์เธอเมื่อไรก็ได้ ทำให้เหยื่อต้องทุกข์ทรมานจากอาการตื่นตระหนก จนรู้สึกว่ายากที่จะหายใจ เพราะอึดอัดจนใจแทบจะระเบิดออกมา”
เจอแล้ว! โพสต์ต้นตอ ทำ “โจนาธาน” โดนแฟนบอล อินโดน รุมรีพอร์ตไอจี หลังจบเกม รอบรอง ซีเกมส์ 2022
เมื่อวานนี้ (19 พฤษภาคม) ทีมชาติไทย ต้องลงสนามในเกมรอบรองชนะเลิศ พบกับ อินโดนีเซีย ในศึกฟุตบอลชาย ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 หรือ ซีเกมส์ 2021 ซึ่งผลากรแข่งขันปรากฎว่าทั้งสองทีมเสมอกับแบบไร้สกอร์ 0-0 ใน 90 นาที ก่อนที่จะเป็นทัพช้างศึกที่มาได้ประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ เอาชนะไปได้ 1-0
โดยในช่วงท้ายเกม มีเหตุการณ์ชุลมุนของผู้เล่นทั้งสองฝั่ง จนทำให้แข้งอิเหนาโดนใบแดงไปถึง 3 คน ส่วนของทีมชาติไทยโดยไป 1 คน นั่นก็คือ วิลเลียม ไวเดอร์เฌอ หลังจบเกม มีแฟนบอลอินโดนีเซีย ได้นำภาพของ โจนาธาน เข็มดี กองหลังทีมชาติไทย ลงในอินสตาแกรม พร้อมแคปชั่นว่า “ตลอดการแข่งขัน นักเตะคนนี้มักข่มขู่ และยั่วยุนักเตะอินโดนีเซีย” อีกทั้งมีการแท็กไอจีของกองหลังลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก เพื่อเป็นการปลุกปั่น
และดูเหมือนการกระทำดังกล่าวจะลุล่วงไปด้วยดี เพระาหลังจากที่โพสต์นี้กระจายออกไป ก็มีแฟนบอลของ อินโดนีเซีย หลายคนเข้าไปคอมเมนต์ในไอจีของ โจนาธาน อีกทั้งยังรุมรีพอร์ตอิสตาแกรมของเจ้าตัว จนทำให้เขาไม่สามารถใช้งานบัญชีไอจีได้ชั่วคราว ก่อนที่ไอจีของ โจนาธาน จะหายไป
โดยการแพร่กระจายข่าวดังกล่าว เป็นมุมมองเพียงด้านเดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตอบข้อเท็จจริงต่อข้อกล่าวหา ด้วยเรื่องราวโดยละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ และเราเสียใจอย่างยิ่งกับข้อเท็จจริงนี้
ทั้งนี้ เราอยากจะขอใช้โอกาสนี้ ขอโทษสำหรับการกระทำและคำพูดที่ผิดพลาดในอดีตของคิมการัม แม้ว่าเธอจะเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายด้วยเจตนาที่อยากจะปกป้องเพื่อนของเธอที่ถูกทำร้าย แต่คิมการัมก็ยอมรับว่าถ้อยคำที่รุนแรงและคำสาปแช่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ผิด และแม้ว่าเธอจะตกเป็นเหยื่อและถูกกลั่นแกล้งจากทางอินเทอร์เน็ตตั้งแต่ช่วงมัธยมต้น คิมการัม ก็ยังคงพยายามเดินต่อไปข้างหน้า เพื่อพิชิตความฝันและอนาคตของตัวเอง
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> น้ำเต้าปูปลาออนไลน์